ผู้ให้คำแนะนำ: เจษฎา ช้างสีสังข์
วันที่เผยแพร่: 1 มิ.ย. 2555
ปรับปรุงล่าสุดวันที่: 1 มิ.ย. 2555
อี เมลนับเป็นสิ่งจำเป็นที่เข้ามามีบทบาทและมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรา เป็นอย่างมาก เพราะเป็นวิธีการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและแทบจะไม่มีต้นทุน หลายคนเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในอีเมลหรือใช้อีเมลในการติดต่อทางด้านธุรกิจ ซึ่งหากผู้ใช้เข้าใช้งานอีเมลผ่านการเชื่อมต่อที่ไม่มีความมั่นคงปลอดภัย ก็อาจทำให้บัญชีผู้ใช้นั้นถูกโจรกรรมได้โดยง่าย
Gmail และ Hotmail เป็นบริการฟรีอีเมลที่มีผู้นิยมใช้กันมากเป็นอันดับต้นๆ (ในปี ค.ศ. 2011 ทั่วโลกมีจำนวนของผู้ใช้งาน Hotmail ประมาณ 350 ล้านคน และ Gmail ประมาณ 260 ล้านคน) [1] ผู้เขียนจึงได้เลือกบริการอีเมลเหล่านี้มาแนะนำเพื่อให้ผู้อ่านได้ปฏิบัติ ในปัจจุบันนั้น ถึงแม้ว่าผู้ให้บริการจะมีระบบที่มีความมั่นคงปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ตัวผู้ใช้เองก็ควรที่จะเรียนรู้ข้อปฏิบัติเบื้องต้นรวมถึงวิธีการป้องกัน แบบต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้
1. การตั้งค่า Gmail ให้มีการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน (2-step verification)
เป็นการใช้ Two Factor Authentication [2] ซึ่งเป็นวิธีการพิสูจน์ตัวตนที่ต้องใช้ข้อมูล 2 ส่วนร่วมกัน เพื่อเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยให้กับการเข้าสู่ระบบหรือบริการ โดยหลักๆ แล้วจะใช้ข้อมูลจาก 2 ใน 3 ส่วนนี้คือ- สิ่งที่รู้ (Something you know) เช่น รหัสผ่าน
- สิ่งที่มี (Something you have) เช่น โทรศัพท์มือถือ, รหัสบัตรเติมเงิน
- สิ่งที่เป็น (Something you are) เช่น ลายนิ้วมือ, ม่านตา
ที่มา : http://www.thaicert.or.th/papers/normal/2012/pp2012no0010.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น